วัดดาวโด่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ชาวตำบลนี้ชื่อนายช้าง ได้อุทิศที่ดินของตนให้ตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นสภาพตอนนั้นยังเป็นป่ารกชัฎมาก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๒ – รัชกาลที่ ๓ จดทะเบียนเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๐ ได้รับวิสุงคามสีมา พ.ศ. ๒๔๙๓ ส่วนอุโบสถคงสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ โดยพระวินัยธรรม(บัว) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ชักชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกันบูรณะวัดนี้
ต่อมาพระอุโบสถหลังเก่าชำรุดทรุดโทรมลงมาก จึงได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น
ทำการผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๔๙๓ เมื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่นั้น
ได้ขุดลูกนิมิตของอุโบสถหลังเก่า ได้พบเงินพดด้วง และเงินเหรียญเฟื้องเป็น
จำนวนมาก ซื่งทำในสมัยรัชกาลที่ ๔ จึงสันนิษฐานได้ว่า อุโบสถนี้สร้างในสมัย
รัชกาลที่ ๔
วัดนี้เดิมชื่อวัด “ดุสิดาราม” โดยหลวงพ่อเต็ม สมภารรูปแรกของวัดเป็นผู้ตั้งขึ้น
ต่อมาสมัยหลวงพ่อโพธิ์ เป็นเจ้าอาวาสได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดดาวโด่ง”เพื่อให้
พ้องกับทางราชการว่าตำบลวัดดาวโด่ง
สิ่งสำคัญของวัด ที่ควรชมและนมัสการ
๑. พระปรานในพระอุโบสถ เป็นพระประธานที่สวยงามมาก เป็นพระพุทธรูป
ปางปฐมเทศนา ถ่ายแบบมาจากวัดหน้าพระเมรุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หล่อด้วยทองเหลือง หน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๑ คืบ ส่วนสูงจากพระบาทถึง
พระเกตทาลา ๗ ศอก ๑ คืบ ๖ นิ้ว น้ำหนัก ๕,๐๐๐ กิโลกรัม แบบห้อยพระบาท
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยุคแรกที่เข้าสู่ประเทศไทย
๒. พิพิธภัณฑ์วัดดาวโด่ง รวบรวมวัตถุโบราณเป็นจำนวนมาก วัดดาวโด่งเป็น
วัดที่สำคัญวัดหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทอดพระเนตร
ถึง ๒ ครั้ง
ที่มา :ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม :http://www.m-culture.in.th/album/36105
เลขที่ : คลองเขิน ต. บ้านปรก อ. เมืองสมุทรสงคราม จ. สมุทรสงคราม 75000
- ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
- ก้อง : มหาวิทยาลัยศิลปากร :
-