
![]() |
||
เหตุการณ์ :
พ่อมาก สุขศรี เกิดเมื่อ 9 สิงหาคม 2463 เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านกระโพ แม้จะไม่ได้ศึกษาต่อ แต่พ่อมาเรียนรู้ชีวิตจากป่าดงพงไพร และวิชาที่เรียนรู้จนแตกฉานมากที่สุดคือ การจับช้างป่า ได้ศึกษาและเรียนรู้นายแก้ว สุขศรี จากบิดา ซึ่งเป็นครูบาใหญ่หรือหมอใหญ่ของจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ในขณะนั้น |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
ในปลายปี 2480 ต่อต้นปี 2481 พ่อมากได้รับอนุญาตจากบิดาให้ออกจับช้างป่าได้อย่างอิสระ ให้มีสิทธิและผลประโยชน์จากการจับช้างป่าเท่าเทียมกับหมอช้างคนอื่นๆ ซึ่งพ่อมากก็สามารถจับช้างป่าได้อีก 1 ตัวโดยลำพัง |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
ขณะอายุ 17 ปี ได้เดินทางไปจับช้างครั้งแรกที่ประเทศกัมพูชในฐานะควาญมะ พ่อมากสามารถจับช้างป่าได้เป็นครั้งแรกด้วยอายุเพียง 17 ปี แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมอสะเดียงเนื่องจากอายุยังน้อย เกรงจะถือกรรมหรือปฏิบัติตามข้อห้ามไม่ได้ (คะลำ) |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
พ.ศ.2482 พ่อมาก สุขศรี ได้เข้าพิธีปะชิเป็นหมอสะเดียง โดยมีหมอนุยและหมอตุ๋ย ศาลางาม สะดำใหญ่ เป็นผู้ทำพิธีให้ |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
พ.ศ.2488-2494 หมอสะเดียงมาก สุขศรี ได้ออกจับช้างทุกปี และจับช้างได้ทุกครั้ง บางครั้งจับได้มากกว่า 1 ตัว และออกช่วยควาญและครูคนอื่นจับช้างป่าตามประเพณีอันดีงามที่ถือปฏิบัติมาแต่โบราณ |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
พ.ศ.2495 หมอสะเดียงมาก สุขศรี เป็น “หมอปะชิ” ออกจับช้างป่าและสามารถจับได้ด้วยตนเอง จึงได้ฐานเป็น “หมอสะดำ” และยังออกจับช้างป่าอย่างสม่ำเสมอ ออกจับช้างป่า ครั้งละ 2 - 3 เดือน เมื่อจับช้างป่าได้ก็นำมาฝึกปรือ บำรุงรักษาจนช้างมีความเชื่องกลายเป็นช้างบ้าน และคัดเลือกช้างที่มีลักษณะดีไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จนสามารถจับช้างตัวที่ 24 |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
นับแต่ พ.ศ.2495 เป็นต้นมา หมอมาก สุขศรี ในฐานะหมอสะดำ เป็นผู้นำในพิธีกรรมต่างๆ แทนบิดาที่ชราภาพมาแล้ว เช่น พิธีรับขวัญลูกช้างเกิดใหม่หรือช้างที่จับหรือจัดหามาใหม่ พิธีตัดงาช้าง พิธีเซ่นผีปะกำ (เป็นพิธีกรรมประจำปีของตระกูลเจ้าของช้าง) |
||
![]() |
||
เหตุการณ์ :
พ.ศ.2498 หมอสะดำมาก สุขศรี ปะชิออกจับช้างป่าได้เป็นตัวที่ 25 จึงได้ฐานะเป็นครูบาหรือปะกำใหญ่ตั้งแต่บัดนั้นมา และหลังปี พ.ศ.2500 เป็นต้นมา ก็ไม่มีการเข้าไปจับช้างในเขตป่าเขมรอีกเลย เนื่องจากมีการปิดชายแดนจวบถึงวันนี้ |