FL-44190-00009
ประวัติชุมชนบ้านแกดำ
ประเภทวัฒนธรรม
จับต้องไม่ได้ : InTangible.
หมวดหมู่วัฒนธรรม
วรรณกรรมพื้นบ้าน
FL:Folk Literature
ข้อมูล/ประวัติ
ประวัติบ้านแกดำ ตำบล แกดำ อำเภอ แกดำ จังหวัด มหาสารคาม ประวัติบ้านแกดำ มีเรื่องราวเล่าขานสืบสานกันมาว่า เมื่อประมาณ พ.ศ.2338 มีนายพราน จำนวน 5 คน และพระสงฆ์ สามเณร ร่วมเดินทางบ้านจากบ้านเว่อ หนองไหล จังหวัดร้อยเอ็ด มาล่าสัตว์ได้เดินทางลัดเลาะริมแม่น้ำชีและป่าหนาทึบ เส้นทางการเดินทางได้ผ่าน กุดเชียงสา บ้านหนองข่าโปโล เรื่อยมาจนถึงบ้านเสือโก้ก อำเภอวาปีปทุม ซึ่งเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ และ ปลา สัตว์ป่า นายพรานทั้ง 5 คนจึงตัดสินใจพักแรมที่บริเวณนี้ จากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้กลุ่มนายพราน จะกลับไปยังบ้านเว่อ เพื่อชักชวนผู้คนมาตั้งถิ่นฐานที่บริเวณนี้และแล้วได้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับ สามเณร ถูกเสือกัดจนเสียชีวิต ทำให้นายพราน ที่เป็นบิดาของสามเณร ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังบ้านเว่อ ส่วนนายพราน 4 คน เกรงกลัวอันตราย เพราะเสือยังออกอาละวาด จึงได้ออกเดินทางเรื่อยมาจนมาถึง “ห้วยแกดำ” และพื้นที่บริเวณรอบๆห้วยแกดำ เป็นเนินดินมีลักษณะคล้ายหลังเต่า อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาชนิด เช่น ต้นแคน (ตะเคียน) ต้นหมากค่า(มะค่า) และต้นสะแกดำ จนกระทั้งนายพรานได้เดินทางกลับไปยังบ้านเว่อ และได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับคนในหมู่บ้านฟัง พระจ้อย ได้ยินได้ฟังจึงอยากเห็นด้วยตนเอง จึงได้ออกเดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เพื่อมายัง “ห้วยแกดำ” และได้พบเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา ลำต้นเป็นสีครั่ง (สีเลือดหมู/ดำ) เรียกว่าต้นสะแกครั่ง หรือ สะแกดำ จึงทำให้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณดอนป่าช้าน้อย (ปัจจุบันที่ตั้งที่ว่าการอำเภอแกดำ) และตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านสะแกดำ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็น บ้านแกดำ ในช่วงประมาณ พ.ศ.2404 เมื่อผู้คนมีจำนวนมากขึ้นหลวงปู่จ้อย ได้พาชาวบ้านขยายบ้านเรือนมายังบริเวณทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณหนองแกดำและสร้างวัดแห่งใหม่ขึ้น เรียกว่า “วัดดาวดึงส์” (ศักดิ์สิทธิ์ ใหม่คามิ : ม.ป.ป) ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่พึ่งพา อาศัยธรรมชาติในการดำรงชีพ เช่นการใช้น้ำจากหนองแกดำ สำหรับการอุปโภค และหาปลา ส่วนบริโภค ชาวบ้านขุดน้ำส่างไว้ดื่มกินในครอบครัว (นางสำรี ดวงพรม : สัมภาษณ์) ประมาณ พ.ศ.2456 ชาวบ้านภายในชุมชนจึงได้มีการขยับขยายแยกบ้านออกไปยังพื้นที่บริเวณข้างเคียง เพื่อการสร้างวัดโพธิ์ศรีแกดำ ต่อมาในปีพ.ศ. 2460 ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนประชาบาล (วัดดาวดึงส์) (ปัจจุบันคือ โรงเรียนอนุบาลแกดำ) ในปีพ.ศ. 2496 ได้ขุดลอกพื้นที่บริเวณหนองแกดำซึ่งเป็นหนองน้ำสำคัญของชาวชุมชนบ้านแกดำและบริเวณใกล้เคียงอย่างบ้านหัวขัวเมื่อทางรัฐบาลมีการเข้ามาขุดลอกหนองแกดำให้มีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “อ่างเก็บน้ำหนองแกดำ” (นางมณี อนุอัน : สัมภาษณ์) ต่อมา พ.ศ. 2502 นาย ทองปักษ์ เพียงเกษ, นายกรณ์ อนุอัน และกำนันคำมี ศรีธรราษฎร์ ได้ร่วมมือกันสร้างโรงเรียนแกดำอนุสรณ์ (ร.ร.ราษฎร์) ประมาณพ.ศ. 2507 เนื่องจากผลของการขุดคลองทำให้คันดินอ่างเก็บน้ำก็ได้ขาดเนื่องจากฝนตกหนัก น้ำในอ่างมีปริมาณมากทำให้เกิดท่วมไร่นาบ้านเรือนทั้งสองฝั่งได้รับความเสียหายทางรัฐบาลจึงมีการเรียกคืนไร่นาให้ชาวบ้าน พ.ศ. 2508 -2509 ได้ย้ายโรงเรียนโรงเรียนแกดำอนุสรณ์(ร.ร.ราษฎร์ ) จากวัดดาวดึงส์ไปยังบริเวณที่ดินของ นายกรณ์ อนุอัน ที่ฝั่งบ้านหัวขัว เนื่องจากว่าเมื่อวัดมีงานพิธีโรงเรียนก็ต้องหยุดทำให้เวลาเรียนไม่พอ เมื่อย้ายไปที่บ้านหัวขัว การเดินทางจึงเป็นไปด้วยความลำบากทั้งการเดินทางน้ำน้ำในอ่างที่มีปริมาณมากและการเดินทางได้อ้อมไปไกล ดังนั้น นาย กรณ์ อนุอัน,กำนันคำมี ศรีธรราษฎร์และนายเคน จันทะนนตรี จึงได้มีการประชุมชาวบ้านหัวขัวและบ้านแกดำ เพื่อสร้างสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำ โดยทำการขอบริจาคไม้จากชาวบ้านและให้ชาวบ้านร่วมกันสร้างสะพานที่มีความแข็งแรงขึ้นมาโดยได้มีการสร้างสะพานเป็นแนวขวางมีเสาคู่และไม้คอเสาขึ้นมา เพื่อใช้ในนักเรียนที่เป็นลูกหลานได้ใช้ข้ามไปโรงเรียน และไปที่ไร่ ที่นาของตนเอง การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจของหมู่บ้านแกดำ เกิดช่วงประมาณ พ.ศ.2516 ที่ส่งผลให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมสำหรับเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว คือ “การปลูกปอ” ชาวบ้านที่มีที่ดิน ได้ทำการปรับพื้นที่ของตนเองสำหรับปลูกปอ ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินสำหรับปลูกปอ ส่วนใหญ่จะรับจ้างลอกปอ ผลผลิตที่ได้จากปอชาวบ้านนำมาขายยังในเมืองมหาสารคาม บางครั้งมีพ่อค้ามารับซื้อปอถึงหมู่บ้าน ทำให้สภาพเศรษฐกิจของชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น (นางกันทิศ ทองหล่อ : สัมภาษณ์) จนกระทั้งราคาปอตกต่ำ ชาวบ้านจึงเลิกปลูกปอ พ.ศ.2519 บ้านแกดำได้ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ แยกตัวออกมาจากอำเภอเมืองมหาสารคาม สาเหตุ เนื่องจากบ้านแกดำ ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอเมือง ซึ่งการติดต่องานทางราชการของชาวบ้านมีความล่าช้าและข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทาง ผลของการแยกตัวออกมาเป็นกิ่งอำเภอแกดำทำให้การติดต่อราชการมีความรวดเร็วมากขึ้น พ.ศ.2520 มีการก่อตั้งสถานีตำรวจภูธรกิ่งอำเภอแกดำขึ้น และ พ.ศ.2526 ได้มีการตั้งโรงพยาบาลกิ่งอำเภอแกดำ (นางทองใส สุโพธิ์ : สัมภาษณ์) พ.ศ.2531 กิ่งอำเภอแกดำได้มีการยกฐานะให้เป็นอำเภอแกดำ ต่อมาจึงได้มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ประชาชน ยกตัวอย่างเช่นการสร้างสถานที่ราชการขึ้น เช่น ที่ว่าการอำเภอ เทศบาล เป็นต้น (นางสาวชนภรณ์ วังคะวิง : สัมภาษณ์) ด้านประเพณี ชาวบ้านแกดำ จัดงานบุญประเพณีตาม ฮีตสิบสอง คองสิบสี่ โดยมีความเชื่อที่ปฏิบัติตามบรรพบุรุษ ที่เคยพาทำมาตั้งแต่อดีต ซึ่งบางบุญประเพณี ไม่ได้จัด แต่งานบุญประเพณีที่ชาวบ้านจัดทำทุกปี คือ งานบุญบั้งไฟ จนกระทั้ง ประมาณ พ.ศ.2545 ทางอำเภอ ยกระดับงานประเพณีบุญบั้งไฟให้มีความยิ่งใหญ่ จึงนำงานกบ ที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอมาจัดร่วมกันกับบุญบั้งไฟ ชาวบ้านจากทุกหมู่บ้านของอำเภอมีส่วนร่วมในงานบุญประเพณีที่ดีงาม และสร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอ (นางคำปน มาน้ำเที่ยง : สัมภาษณ์) นอกจากงานบุญประเพณีที่กล่าวมาแล้วนั้น เมื่อ พ.ศ.2558 เป็นต้นมา อำเภอแกดำได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและกลายเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของจังหวัดมหาสารคาม สถานที่แห่งนั้น คือ สะพานไม้แกดำ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่นำนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนบ้านแกดำ เพื่อชมความงดงามของสะพานไม้แกดำ และทำให้ประชาชนทั่วไป นักท่องเที่ยว ได้เข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านแกดำ
ที่ตั้ง
เลขที่ : บ้านแกดำ ต. แกดำ อ. แกดำ จ. มหาสารคาม 44190
บุคคล/กลุ่มผู้ให้ข้อมูล
- นางสำรี ดวงพรม
ผู้บันทึกข้อมูล
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม :
ช่องทางติดต่อ
- -
มีผู้เข้าชมจำนวน :943 ครั้ง
บันทึกข้อมูลเมื่อวันที่ : 19/02/2022 - ปรับปรุงล่าสุดวันที่ : 19/02/2022